การทำกระจกสีตกแต่งงานศิลปกรรมในล้านนามีสามแบบ 1."กระจกจืน" หรือ "แก้วจืน" ออกสีตุ่นๆ ทำจากก้อนหินสีที่เรียก "ยาแขก" โรยผงเผาอุณหภูมิอ่อนๆ ดาดพื้นหลังด้วยตะกั่ว (คนล้านนาเรียก "จืนดิบ") เป็นกรรมวิธีโบราณสุดล้านนารับจากจีนผ่านเส้นทางสายไหม จีนรับจากอินเดียและอิหร่าน-เปอร์เซียอีกชั้น เป็นเทคนิคกึ่ง enameling 2."กระจกหุง" หรือ "แก้วอังวะ" สีสดใสแวววาวมีความหนานูนคล้ายอัญมณี ราชสำนักอังวะมัณฑะเลย์รับอิทธิพลมาจากการทำกระจกสีของศิลปะกอทิก กรุงปารีส ฝรั่งเศส โดยสล่าชื่อ "อูชเวอู" ในสมัยพระเจ้ามินดง เป็นผู้บุกเบิกริเริ่ม จนได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้ากรมหุงกระจก เมื่อคนล้านนารู้จักแก้วอังวะ ความนิยมในแก้วจืนก็ค่อยๆ หายไป ภาพขวาล่างจากวัดพระแก้วดอนเต้า ลำปาง ส่วนแบบสุดท้ายนั้นคือภาพซ้าย เป็นกระจกเนื้อแกร่ง คมบาง สีสันสวยใส คล้ายกระจกปัจจุบัน ไม่หนานูนเหมือนแก้วอังวะ พบมากในงานสถาปัตยกรรมที่ครูบาศรีวิชัยสร้าง ตามกรอบเสา หน้าบัน ดาวเพดานในวิหาร ใช้ประดับธรรมปราสาท เช่นในภาพคือวัดพระบาทตากผ้า เป็นกระจกตัดเรียบฝังลงในเนื้อปูน แบบนี้ศัพท์ช่างทางเหนือเรียก "แก้ว" อะไรมิทราบคะ ใช่ "แก้วลังกา" หรือเปล่า
ด้านล่างเป็นภาพประกอบครับ
เครดิต ดร. เพ็ญสุภา สุขคตะ ใจอินทร์ ( FB ) Pensupa Sukkata Jai Inn
Pensupa Sukkata Jai Inn