พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากรประดิษฐานอยู่ในพระวิหารวัดไตรมิตรวิทยาราม เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง ๓.๑๐ เมตร สูง ๓.๗๗ เมตร หล่อด้วยทองคำที่เรียกว่าทองเนื้อเจ็ดน้ำสองขา จัดเป็นเนื้อทองค่อนข้างบริสุทธิ์
เดิมพระพุทธรูปองค์นี้มีปูนหุ้มอยู่ทั่วทั้งองค์และประดิษฐานอยู่ที่วัดโชตินารามหรือวัดพระยาไกรมาตั้งแต่ครั้งรัชกาลที่ ๓ ต่อมาใน พ.ศ. ๒๔๗๘ ได้มีการเคลื่อนย้ายพระพุทธรูปองค์นี้ไปไว้ที่ข้างพระเจดีย์ในวัดสามจีนซึ่ง (ปัจจุบันเรียกว่าวัดไตรมิตรวิทยาราม) ครั้นถึง พ.ศ. ๒๔๙๘ จึงได้สร้างพระวิหารหลังใหม่เพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปองค์นี้ ในการเคลื่อนย้ายปูนที่หุ้มองค์พระได้กะเทาะออก ทำให้เห็นว่ามีพระพุทธรูปองค์ในที่เป็นเนื้อทองคำทั้งองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานนามพระพุทธรูปองค์นี้ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๕ ว่า พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร
ลักษณะศิลปกรรมของพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากรจัดเป็นพระพุทธรูปสุโขทัยในหมวดใหญ่ พระพักตร์รูปไข่ ขมวดพระเกศาเล็ก พระรัศมีเป็นเปลว พระอังสาใหญ่ บั้นพระองค์เล็ก ชายสังฆาฏิเป็นเส้นเล็กยาวลงมาจรดพระนาภี ปลายคล้ายเขี้ยวตะขาบ พระพุทธรูปสุโขทัยหมวดใหญ่นิยมสร้างในราวๆ กลางพุทธศตวรรษที่ ๑๙ ถึงกลางพุทธศตวรรษที่ ๒๐ ตั้งแต่สมัยพระมหาธรรมราชาที่ ๑ (ลิไท) เป็นต้นมา สำหรับพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากรนี้มีลักษณะที่สามารถเปรียบเทียบได้กับกลุ่มพระพุทธรูปที่มีจารึกที่ฐาน เช่น พระพุทธรูปทองโบราณวัดหงส์รัตนาราม กรุงเทพมหานคร ระบุศักราชที่สร้างคือ ๑๙๖๓ ดังนั้น พระสุโขทัยไตรมิตรจึงน่าจะสร้างขึ้นในราวๆ กลางพุทธศตวรรษที่ ๒๐ เช่นกัน
การที่พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากรมาประดิษฐานยังกรุงเทพมหานครนั้น คงเกิดขึ้นในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ซึ่งได้โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระพุทธรูปจากหัวเมืองเหนือมาไว้ยังกรุงเทพมหานครเป็นจำนวนมาก และได้โปรดเกล้าฯ ให้นำไปประดิษฐานยังวัดต่างๆ ที่สร้างขึ้นใหม่ พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากรคงได้รับการอัญเชิญมาในคราวเดียวกันนี้ และนำมาประดิษฐานยังวัดโชตินารามที่สร้างขึ้นในรัชกาลที่ ๓ ดังกล่าวแล้วข้างต้น ส่วนการพอกปูนหุ้มทับองค์พระพุทธรูปนั้น น่าจะเป็นการป้องกันอันตรายในภาวะสงครามคราวใดคราวหนึ่ง