พระแซกคำ วัดคฤหบดี กรุงเทพมหานคร ครึ่งหลังพุทธศตวรรษที่ ๒๑ (ครึ่งแรกคริสต์ศตวรรษที่ 16) สัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง ๔๖ เซนติเมตรพระพุทธปฏิมาที่น่าจะสร้างขึ้นก่อนสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช
พระพุทธแซกคำ เป็นพระพุทธรูปเนื้อทองคำโบราณ ปางมารวิชัย
สมัยเชียงแสน ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ๙ องค์
เป็นพระพุทธรูปคู่เมืองแห่งราชอาณาจักรล้านนา (นครเชียงใหม่)
ซึ่งมีพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชเป็นพระมหากษัตริย์
ต่อมา พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชมีความจำเป็นต้องเสด็จไปครอง
ราชสมบัติในอาณาจักรล้านช้างพระนครศรีสัตนาคนหุต (หลวงพระบาง)
และได้อัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญที่มีความศักดิ์สิทธิ์ไปด้วย ๓ องค์ คือ
พระแก้วมรกต พระพุทธแซกคำ และพระบาง
ในปี พ.ศ. ๒๑๐๐ พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชย้ายราชธานีจากหลวง
พระบาง ไปตั้งที่นครเวียงจันทน์ และทรงอัญเชิญพระพุทธรูปทั้ง ๓ องค์
ไปด้วย พระพุทธแซกคำ จึงได้ประดิษฐานอยู่ที่นครเวียงจันทน์ สืบมาหลาย
รัชกาลนานถึง ๒๖๙ ปี
ในปี พ.ศ. ๒๓๖๙ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓
ทรงให้เจ้าพระยาบดินทรเดชา เป็นแม่ทัพไปปราบกบฏเวียงจันทน์ ได้จับกุม
เจ้าอนุวงศ์ กษัตริย์เวียงจันทน์มากรุงเทพฯ พร้อมอัญเชิญพระพุทธแซกคำ
นำมาทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทาน
พระพุทธแซกคำแก่ พระยาราชมนตรีบริรักษ์ (ภู่) ซึ่งเป็นต้นตระกูลภมรมนตรี
และตระกูลชุมสาย ผู้สร้างวัดคฤหบดี ให้มาเป็นพระประธานในพระอุโบสถ
พระอารามหลวง วัดคฤหบดี เป็นศรีสง่าแห่งพระอาราม นับแต่พุทธศักราช
๒๓๖๙ กระทั่งถึงทุกวันนี้
เมื่อกล่าวถึงประวัติพระพุทธแซกคำแล้ว เห็นสมควรได้กล่าวถึง
ตำนานการสร้างพระพุทธแซกคำไว้ด้วย
>> ตำนานการสร้างพระพุทธแซกคำ
พระพุทธแซกคำ สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ ๑๖-๑๘ คือระหว่าง
พ.ศ. ๑๖๐๐ - ๑๘๐๐ นับถึงปัจจุบันจะมีอายุยาวนานถึง ๙๕๒ ปี
ย้อนไปถึงเมื่อครั้งพระนางจามเทวีได้ขึ้นครองราชสมบัติ เป็น
กษัตริยาแห่งนครหริภุญไชย พระนางจามเทวีทรงให้ช่างสร้างพระพุทธรูปขึ้น
๓ องค์ เพื่อเป็นการบูชาคุณพระชนก พระชนนี และเป็นการฉลองในส่วน
พระองค์เอง โดยจัดงานสมโภชพระพุทธรูปทั้ง ๓ องค์ ตลอด ๓ วัน ๓ คืน
พระนางจามเทวี ทรงปิติโสมนัสเป็นอย่างยิ่ง และได้ทรงตั้งจิต
อธิษฐานว่า "พระพุทธรูปทั้ง ๓ องค์ สวยงามไม่มีที่ติ ถ้าหากว่ามีพระพุทธรูป
องค์ใดที่มีพุทธลักษณะงดงามยิ่งกว่า ก็ขอให้มาปรากฏในมณฑลพิธีนี้"
เมื่อจบคำอธิษฐาน ทั่วมณฑลพิธีปกคลุมไปด้วยกลุ่มควันสีขาว
และมีลำแสงสีทองลงมาจากนภากาศและปรากฏพระพุทธรูปสีทองคำมีพุทธ
ลักษณะงดงามมาก แหวกอากาศตามลำแสงสีทองลงมาประดิษฐานแทรกใน
ระหว่างพระพุทธรูปทั้ง ๓ องค์นั้น
พระนางจามเทวีทรงเห็นอัศจรรย์นั้น ยิ่งมีจิตโสมนัสเป็นอย่างยิ่ง
และโปรดให้จัดงานสมโภชจนครบ ๙ วัน ๙ คืน และถวายพระนามพระพุทธรูป
องค์นี้ว่า "พระพุทธแซกคำ" เหตุเพราะว่าแหวกอากาศลงมาตามลำแสงสีทอง
มาตั้งแทรกอยู่กลางพระพุทธรูปทั้ง ๓ องค์
จากนั้นมา ก็กล่าวขานกันว่า ท้าวสักกะอินทราธิราชทรงเนรมิต
สร้างพระพุทธแซกคำ ให้เป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชนทั่วไป โดย
เชื่อกันว่าเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์สืบมา
นอกจากนี้ สมควรได้ทราบประวัติของวัดคฤหบดี พร้อมกันด้วย
เพื่อที่จะได้ชมวัด หลังจากได้กราบไหว้พระพุทธแซกคำแล้ว